แชร์

“เจ้าท่า” ปักธงปี 66 ลุยยกระดับการนำร่อง มุ่งปลอดภัยสูงสุด รองรับส่งออก-ท่องเที่ยวฟื้นตัว

อัพเดทล่าสุด: 5 ต.ค. 2023
332 ผู้เข้าชม

กรมเจ้าท่าเปิดเผยว่า สำนักนำร่องได้กำหนดแผนงานการนำร่องให้เกิดความปลอดภัยประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การเดินเรือ โดยใช้ผู้นำร่องในหรือนอกเขตบังคับใช้ผู้นำร่องเกิดความปลอดภัยสูงสุด และรวมถึงการเรียกเก็บค่าจ้างนำร่องให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะเป็นอีกส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแผนงานเชิงรุกประจำปี 2566 ของกรมเจ้าท่าที่มุ่งเน้นความสำคัญในมาตรการความปลอดภัยด้านการจัดการระบบขนส่งทางน้ำควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพและการเฝ้าระวังในทุกมิติ

สำหรับสำนักนำร่อง กรมเจ้าท่า มีหน้าที่ ศึกษาและพัฒนาระบบ รูปแบบ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการนำร่องเรือ และระบบการประกอบกิจการนำร่อง ดำเนินการเกี่ยวกับการนำร่องตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย เสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดเขตท่าเรือน่านน้ำใดๆให้เป็นเขตที่ต้องเดินเรือโดยผู้นำร่อง เสนอแนะเกี่ยวกับการออกข้อบังคับที่เกี่ยวกับการนำร่อง และดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมและสอบความรู้ผู้นำร่องรัฐบาลและผู้นำร่องพิเศษ

โดยแผนการดำเนินงาน ได้แก่ 1. งานออกใบสำคัญ (ใบอนุญาต) การออกใบอนุญาตผู้นำร่องรัฐบาลและการออกใบอนุญาตผู้นำร่องพิเศษ 2. งานทำการนำร่องเรือเข้า-ออกและเลื่อนในเขตบังคับใช้ผู้นำร่องทั้ง 6 เขตท่า (เขตท่าเรือกรุงเทพ เขตท่าเรือศรีราชา เขตท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เขตท่าเรือจังหวัดสงขลา เขตท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต 3. งานการเงินการนำร่อง ที่ประกอบด้วยการวางมัดจำด้วยเงินสดหรือหนังสือสัญญาค้ำประกันในการขอใช้ผู้นำร่อง ออกใบแจ้งหนี้เรือขอใช้ผู้นำร่องเรือที่ออกจากเขตท่าไปแล้ว เก็บเงินค่าจ้างนำร่องจากเรือที่ขอใช้บริการนำร่อง ตรวจสอบและติดตามให้ผู้ประกอบการชำระค่าจ้างนำร่องให้เป็นปัจจุบัน และฝึกอบรมผู้สมัครนำร่องรัฐบาลและผู้นำร่องพิเศษ

ปัจจุบันการนำร่องเป็นส่วนหนึ่งของระบบการขนส่งทางน้ำ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางทะเลที่เป็นการสนับสนุนการส่งออกของประเทศ รวมไปถึงการนำร่องเรือขนาดใหญ่ เช่น เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ เรือบรรทุกสินค้าทั่วไป เรือสำราญ เรือรบต่างประเทศ เรือบรรทุกน้ำมัน/สารเคมี เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของไทยที่มีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่อง กรมเจ้าท่าจึงมุ่งเน้นการขนส่งทางน้ำอย่างเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ มีมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยผู้นำร่องที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และมีเครื่องมือที่ทันสมัย ปัจจุบันการนำร่องเรือมีจำนวน 40,000 เที่ยวต่อปี นับเป็นความสำคัญของระบบการขนส่งที่ต้องมีการบริหารจัดการการขนส่งทางน้ำ เพื่อเข้าสู่การเข้าเทียบท่าภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับระบบขนส่งทางน้ำของไทย โดยอาศัยความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ของประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
สรท. คาดส่งออกไทย ปี 2566 ขยายตัว 3% หรือมีมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญ สหรัฐ ยังไร้แรงสนับสนุน ส่งผลให้ส่งออกชะลอตัว ขณะที่ ส่งออกปี 2565 ขยายตัว 7-8% พร้อมกันนี้ จับมือ ตั้งศูนย์ระงับข้อพิพาทด้านโลจิสติกส์
วันที่ 6 ธันวาคม 2565 นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผย สรท. คาดการณ์การส่งออกรวมปี 2565 ขยายตัวที่ 7-8% หรือมีมูลค่า 290,000-293,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ การส่งออกปี 2566 ขยายตัวที่ 2-3% หรือมีมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจัยบวกที่จะสนับสนุนให้การส่งออกขยายตัวได้ คือ จีนผ่อนคลายโควิด-19 สินค้าการส่งออกที่ยังเติบโต การส่งออกอาหารสินค้าเกษตร เป็นต้น
5 ต.ค. 2023
บาทอ่อนต้นทุนส่งทางเรือพุ่ง “โลจิสติกส์ไทย” เสียเปรียบจีนแข่งขันไม่ได้
ไทยเจ้าภาพประชุม Global Shippers Alliance สภาผู้ส่งออกร่วมเวทีถกผู้นำเข้า-ส่งออกทั่วโลก 10-12 ต.ค นี้ แก้ปม “ค่าระวางเรือ-ตู้คอนเทนเนอร์” หลังผลกระทบจากโควิด-19 สงครามการค้า หวั่นค่าเงินบาทอ่อนกระทบต้นทุนโลจิสติกส์ผู้ส่งออกไทยแพงกว่าจีน 65% แข่งขันไม่ได้
5 ต.ค. 2023
จับตาตลาด “สหรัฐ-อียู-จีน. สัญญาณส่งออกไทยชะลอตัว
“สทร.ประเมินส่งออกไทยปลายปี เผชิญ 4 ปัจจัยเสี่ยง ขณะที่เศรษฐกิจตลาดคู่ค้าสำคัญไทย สหรัฐ-อียู-จีน แต่คงเป้าส่งออกทั้งปีที่ 6-8%”
5 ต.ค. 2023
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy