สถานการณ์ในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางเรือกำลังกลับตาลปัตร จากที่ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์อย่างรุนแรงในช่วงโควิดระบาด กลับต้องมาเผชิญกับปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ล้นคลังเก็บแทน หลังภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในหลายประเทศ ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าในโลกลดลง
Christian Roeloffs CEO ของ Container xChange แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คลังสินค้าหลาายแห่งไม่เหลือพื้นที่มากพอที่จะเก็บตู้คอนเทนเนอร์ได้เพิ่มเติมอีกแล้ว และปัญหานี้อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเมื่อตู้คอนเทนเนอร์เปล่ามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น
สอดคล้องกับ Andrea Monti ผู้บริหารของ Sogese คลังเก็บตู้คอนเทนเนอร์ในอิตาลี ที่ออกระบุว่า บริษัท ของเขาต้องปฏิเสธลูกค้าที่ต้องการใช้บริการไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากปัจจุบันคลังของบริษัทในหลายๆเมืองมีตู้คอนเทนเนอร์อยุ่เต็มความจึแล้ว
Monti กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะโดยปกติในช่วงปลายปีที่จะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสจะเป็นช่วงที่การขนส่งสินค้ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก การมีตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเหลืออยู่เป็นจำนวนมากจึงสะท้อนว่าคำสั่งซื้อสินค้าในขณะนี้ได้ปรับตัวลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ความต้องการสินค้าที่ลดลงมำให้ดัชนี World Container Index ของ Drewry ซึ่งเป็นเกณฑ์อ้างอิงราคาการขนส่งสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์ปรับตัวลดลง โดยค่าขนส่งสินค้าต่อตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุตในเดือนกันยายนที่ผ่านมาอยุ่ที่ 2,773 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาในช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 73%
นอกจากนี้ ข้อมูลของ Container xChange ยังพบตัวเลขการล่องเรือเปล่า รวมถึงการยกเลิกตารางเดินเรือที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากการที่บริษัทขนส่งหลายแห่งปรับระบบการขนส่งของตัวเองให้สอดคล้องกับอุปสงค์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีเรือขนส่งสินค้าราว 14% ที่แจ้งยกเลิการเดินทางในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมนี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Maersk บริษัทขนส่งทางเรือรายใหญ่ของโลก ได้แจ้งเตือนนักลงทุนในการแถลงผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 ของบริษัทว่าอัตราค่าระวางสินค้ากำลังปรับตัวลดลง ทำให้ผลกำไรจากการขนส่งทางทะเลมีแนวโน้มที่จะลดลงตามไปด้วยในอนาคต